ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญสำหรับการตกแต่งบ้านก็คือความปลอดโปร่ง โล่งสบาย ที่หากขาดไปก็อาจทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านอึดอัดอยู่ไม่น้อย บ้านที่น่าอยู่ไม่จำเป็นต้องตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราเสมอไป บทความนี้ได้คัดเลือก 10 ไอเดียการจัดสรรบ้านให้ดูปลอดโปร่ง ให้คุณได้นำหยิบเลือกไปใช้งาน ยกระดับความน่าอยู่ของบ้านขึ้นไปอีกขั้น
จัดเฟอร์นิเจอร์อย่างเป็นระเบียบ
ความน่าอยู่ของบ้านคุณจะลดลงทันทีหากเหล่าเฟอร์นิเจอร์ของคุณถูกจัดวางอย่างไม่เป็นระเบียบ และไม่มีการวางแผนมาก่อน
เพราะฉะนั้น สิ่งแรกที่คุณควรทำคือวางแผนการจัดวางของเฟอร์นิเจอร์เหล่านั้น โดยจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสม และคำนึงถึงกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในห้องนั้นด้วย เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด
ยกตัวอย่าง เช่น ภายในห้องรับแขกควรตั้งเฟอร์นิเจอร์ห่างกันพอสมควร เนื่องจากเป็นห้องที่มีคนใช้งานเยอะกว่าห้องอื่นๆ อีกทั้งยังมีผู้คนสัญจรไปมาตลอดเวลา จึงเป็นเหตุผลที่ควรเว้นที่ว่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์เอาไว้เพื่อให้มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอ
คัดแยกสิ่งของต่างๆ
นอกจากเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ที่ทำให้ภาพลักษณ์ของบ้านดูอึดอัดตาแล้ว เหล่าสิ่งของกระจุกกระจิกต่างๆ ที่ถูกวางไว้ไม่เป็นระเบียบก็เรื่องที่ควรจัดการเช่นเดียวกัน อย่างเช่น หนังสือ หรือหมอนอิง ที่คุณมักจะลืมตัวทิ้งมันไว้ไม่เป็นที่เป็นทางประจำ
ในการจัดเก็บมันไม่ได้หมายความว่าคุณจะนำไปรวมกันไว้ในตู้แล้วปิดมันไว้ตลอดกาล แต่ให้คุณคัดแยกสิ่งของเหล่านี้ออกเป็นประเภทๆ แล้วจัดเก็บมันไว้ให้เป็นที่เป็นทาง เพื่อให้บ้านของคุณดูสะอาด และสบายตามากยิ่งขึ้น
ซึ่งมันจะช่วยให้คุณสามารถจดจำและหยิบสิ่งของเหล่านั้นออกมาใช้ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังแสดงถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยของผู้เป็นเจ้าบ้านอีกด้วย
โทนสีช่วยให้ดูสะอาดตา
“ภาพรวม” ของสิ่งต่างๆ ในบ้านของเราจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับ “สีสัน” ที่เราเลือกใช้ในการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นสีของผนัง ฝ้าเพดาน หรือเฟอร์นิเจอร์ หากคุณคุมโทนสีอย่างลงตัวก็จะสามารถสร้าง “บรรยากาศ” ตามที่คุณอยากจะให้บ้านของคุณเป็นได้
ในการเลือกใช้สีเพื่อตกแต่งบ้านนั้น ก็มีตัวช่วยให้คุณเลือกใช้ในการเลือกโทนสีที่ดูดีเข้ากันได้ ด้วย “Colour Schemes” ตัวช่วยกลุ่มสีที่อยู่ด้วยกันแล้วสวยงาม โดยในการออกแบบสีที่ทำให้บ้านดูสะอาดตานั้น จะเลือกใช้โทนสีอ่อนหรือสีที่ให้ความรู้สึกเย็น เช่น สีขาว, สีเทา, สีครีม หรือสีฟ้า
โดยจะมีหลักการเลือกใช้สีหลักๆ 3 รูปแบบ ดังนี้
• Analogous หรือการใช้กลุ่มสีโทนเดียวกัน เช่น สีครีม, สีขาว, สีเทา
• Complementary หรือการใช้ค่าสีที่ตรงกันข้ามกัน เพื่อสร้างความโดเด่นกระตุ้นอารมณ์ เช่น สีขาว – สีดำ หรือสีแดง – สีน้ำเงิน
• Triadic หรือกลุ่มสีแบบสมดุล ประกอบไปด้วยกลุ่มสีน้ำหนักเดียวกัน 3 โทน เช่น เหลือง-แดง-น้ำเงิน จากตัวอย่างจะใช้หลักการเลือกสีแบบ Analogous หรือสีโทนเดียวกันแบบไล่ Scale ขึ้นไป ได้แก่ สีเทา, สีเทามอมฟ้า และสีฟ้า แต่เพิ่มจุดดึงดูดสายตาในห้องด้วย สีเขียว เล็กน้อย ในสัดส่วน 70-20-10 ทำให้ภาพรวมดูเย็นตา และสะอาดสะอ้าน
เฟอร์นิเจอร์มากฟังก์ชั่น การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีการออกแบบให้มีหลากหลายฟังก์ชัน จะช่วยให้บ้านของคุณมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น แถมยังสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น เก้าอี้สตูลที่มีช่องวางหนังสือด้านล่าง เตียงนอนที่มีลิ้นชักอยู่ภายในตัว หรือโต๊ะกินข้าวที่เมื่อใช้เสร็จสามารถพับเก็บให้เหลือเพียงครึ่งเดียวได้
แยกพื้นที่ออกเป็นสัดส่วน
คงรู้สึกแปลกไม่น้อยหากคุณกำลังนอนเล่นอยู่ในห้องรับแขก แต่กลับมีคนยืนทำอาหารเย็นอยู่ที่ด้านหลังโซฟาของคุณ
การแบ่งห้องออกเป็นสัดส่วน จะช่วยลดความแออัดคับแคบให้ดูโปร่งโล่ง และสะดวกในการใช้สอย แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องก่อกำแพงขึ้นเพื่อกั้นห้องแต่อย่างใด เพียงแค่คุณเว้นช่องว่างระหว่างเฟอร์นิเจอร์ของแต่ละส่วนให้มีพื้นที่กว้างพอที่จะให้ความรู้สึกแยกจากกัน เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้บ้านของคุณดูมีบริเวณเป็ดสัดเป็นส่วนแล้ว
กลิ่นหอมที่ชวนให้หลงไหล
กลิ่นหอมที่ลอยมาตามอากาศเมื่อคุณเปิดประตูบ้าน จะช่วยสร้างความประทับใจให้กับคุณและคนอื่นๆ ที่มาเยี่ยมเยียนบ้านคุณในทุกๆ ครั้ง
นอกจากนี้ ความหอมยังเป็นการแสดงถึงความสะอาด และรสนิยมของเจ้าบ้านอีกด้วย โดยมีมากมายหลากหลายกลิ่นตามแต่ที่คุณชอบ
โดยสิ่งที่เหมาะสำหรับปรับอากาศบ้าน มี 3 แบบ ดังนี้ ก้ามไม้หอมปรับอากาศ: นอกจากกลิ่นหอมที่จะปล่อยออกมาอย่างช้าๆ จากน้ำหอมที่ซึมผ่านทางกิ่งไม้แห้งแล้ว ยังสามารถใช้เป็นอุปกรณ์ประดับบ้านที่แสดงถึงความ Vintage ได้อีกด้วย เครื่องปล่อยไอน้ำอโรม่า: สามารถส่งกลิ่นหอมออกมาได้อย่างรวดเร็วด้วยอุปกรณ์พ่นไอน้ำ สามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้อัตโนมัติ แต่มีระยะที่ค่อนข้างจำกัด เหมาะสำหรับการใช้ในห้องนอน หรือห้องนั่งเล่น เจลหอมปรับอากาศ: สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อ ให้กลิ่นหอมยาวนานแต่ระยะค่อนข้างจำกัด อีกทั้งดีไซน์ยังไม่เหมาะสมกับการตกแต่งบ้าน จึงแนะนำให้เอาไว้ใช้ภายในห้องน้ำ หรือห้องอาบน้ำ
ของประดับไม่เยอะจนเกินไป
ของประดับบ้านจะช่วยดึงดูดจุดสนใจทางสายตา แต่ว่าถ้ามีเยอะเกินไปก็จะมีจุดดึงดูสายตามากเกินไป ไม่รู้จะมองไปที่ไหนดี จนกลายเป็นความรู้สึกรกบ้านเสียเปล่า
แนะนำว่าแต่ละห้องนั้นควรมี Statement Piece ที่โดดเด่นเพียงชิ้นเดียวดึงดูดสายตา และสร้างเอกลักษณ์ให้กับห้องนั้นๆ จะเป็นการดีที่สุด จากตัวอย่าง จะมี “ภาพวาดสีทอง” ที่เป็น Statement Piece ดึงดูดสายตาของผู้ที่มองเข้ามาเพียงจุดเดียว
ห้องนอนสำคัญที่สุด
สำหรับสถานที่ที่คุณใช้เวลามากที่สุดภายในบ้าน สำหรับเอนกายนอนหลับยามค่ำคืน บรรยากาศโดยรอบของห้องจึงควรที่จะปลอดโปร่ง โล่งสบาย ชวนให้อยากหลับไหลไปตลอดคืน และตื่นขึ้นมาอย่างสดใส
แน่นอนว่าในห้องนอน ส่วนที่สำคัญที่สุดก็คือ “เตียง” เพราะฉะนั้น โดยรอบเตียงไม่ควรที่จะมีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นวางรอบๆ จนทำให้รู้สึกรกตา แค่มีโต๊ะข้างเตียง หรือเก้าอี้เล็กๆ สักตัวไว้สำหรับนั่งพักผ่อนก่อนเข้านอน จะช่วยให้เตียงดูโดดเด่น และองค์ประกอบของห้องดูสมบูรณ์ยิ่งขึ้น
อย่ามองข้ามการตกแต่งห้องน้ำ
ห้องน้ำเป็นอีก Checkpoint สำคัญในบ้านที่จะบ่งบอกถึงความสะอาด และความเป็นตัวคุณ ใน 1 วันคุณต้องใช้เวลาในการเข้าห้องน้ำอย่างน้อย 3-5 รอบ คงจะดีไม่น้อยหากคุณได้ใช้ห้องน้ำที่สะอาด และดูดี เป็นความสุขเล็กๆ ที่จะช่วยผ่อนคลายคุณได้เป็นอย่างดี
โดยอาจใช้แค่กระถางต้นไม่สักต้นหนึ่งวางประดับไว้ที่มุมห้อง สีเขียวของต้นไม้จะตัดกับสีของผนังห้องน้ำทำให้ดูโดดเด่นขึ้นมามากเลยทีเดียว
มุมส่วนตัวให้คุณได้เอนกายพัก
หลังเสร็จกิจจากสิ่งที่ทำมาตลอดวัน แน่นอนว่าร่างกายของคุณจะต้องเหนื่อยเอามากๆ แต่ก่อนที่คุณจะจัดการอาบน้ำทำงานบ้านเสร็จแล้วเข้านอน คงจะดีไม่น้อยถ้ามีมุมส่วนตัวให้เอนกายลงพักผ่อน หรือจะใช้สำหรับปาร์ตี้เล็กๆ กับเพื่อน ดูฟุตบอลยามค่ำคืน นั่งจิบ Whisky เบาๆ
ซึ่งองค์ประกอบหลักสำหรับมุมพักผ่อนนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก “โซฟา” นุ่มๆ ที่จะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้โซฟายังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดูหรูหราให้กับบ้านของคุณด้วย